ซึ่งเมื่อเรามีวินัยแล้ว เราก็ยังต้องปรับเปลี่ยนทัศนคติของเราให้ดีด้วยนะคะ (ไม่ใช่มีวินัยในเรื่องที่ผิด ) แต่ถามว่ายังไงถึงเรียกว่าทัศนคติที่ดี ...งั้นไปดูกันต่อเลยค่ะ
ทัศนคติที่ดีของการลงทุนหุ้น
- การลงทุนในหุ้นคือการลงทุนในธุรกิจ ต้องรู้และเข้าใจว่าหุ้นตัวนั้นๆ ทำธุรกิจแบบไหน แนวโน้มของธุรกิจเป็นอย่างไร มีฐานะทางการเงินเป็นอย่างไร ไม่ได้ดูแค่ราคาหุ้นอย่างเดียว
- ถ้าเราอยากรวยหุ้น อยากมีอิสรภาพทางการเงิน เราก็ต้องทุ่มเททั้งใจให้กับมันด้วย
- ถ้าอยากเก่งเรื่องหุ้น ก็ต้องยอมลงทุนในการหาความรู้ และอย่าไปคาดหวังผลตอบแทนสูงเกินไป เอาเท่าที่เราพอทำได้ ให้คาดหวังน้อยๆ ก่อน เช่น หวังผลตอบแทนเฉลี่ยปีละ 15% ก็พอ แล้วทบต้นเอา แบบนี้จะไม่กดดันมากและมีความสุขในการลงทุนด้วยค่ะ
- ปกป้องต้นทุนก่อน แล้วค่อยทำกำไร นักลงทุนมือใหม่มักจะมองและมุ่งแต่กำไร กำไร แล้วก็กำไร หวังกำไรมากๆ เป็นอันดับแรก ทำให้มักจะลงทุนเกินตัวและเล่นหุ้นที่มีความเสี่ยงสูง ๆ ซึ่งที่จริงแล้วต้องปกป้องทุนของเราเอาไว้ให้ได้ก่อน เพราะแม้แต่นักลงทุนระดับโลกอย่าง Warren Buffet หรือGeorge Soros ก็ยังให้ความสำคัญของเรื่องนี้ไว้เป็นอันดับแรก เราจึงควรเลือกเล่นในเกมที่เราโอกาสได้มากกว่าเสีย เพราะถ้าพลาดมาแล้วเราอาจหมดตัวก่อนได้นั่นเองค่ะ
เมื่อเราลองเปรียบเทียบในเรื่องของผลตอบแทน จากการลงทุนหลาย ๆ แบบ (กรณีใช้เงินทุนเริ่มต้นที่เท่ากัน) จะเป็นดังภาพค่ะ (ดัชนีผลตอบแทนรวมของหุ้น ทองคำ พันธบัตร และเงินสด ซึ่งเปรียบเทียบ พ.ศ. 2518-2554) เป็นดังนี้ค่ะ
ซึ่งจากภาพนี้ ถ้าเรามีเงินจำนวนหนึ่ง โดยทำการลงทุนตั้งแต่ปี 2518 เราจะได้ผลตอบแทนดังนี้...
หุ้น(สามัญ) 600 เท่า > พันธบัตร 243 เท่า> เงินสด (ดอกเบี้ย) 100 เท่า> ทองคำ 85 เท่า
เห็นไหมคะว่า “หุ้น”ให้ผลตอบแทนมากกว่าทองคำถึง 7 เท่า เลยทีเดียว!!! ...ลองคิดดูนะคะ ว่าเราควรเลือกลงทุนแบบไหน แต่ไม่ว่าจะเลือกแบบไหนเราก็ต้องศึกษาความรู้ก่อนลงทุนด้วยนะคะ เพราะ “การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน” ค่ะ ^___^
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น